ตาต้อกระจก ปล่อยไว้นานเสี่ยง “ตาบอด” สูง 

ตาต้อกระจก
Oct

ตาต้อกระจก ปล่อยไว้นานเสี่ยง “ตาบอด” สูง 

การเกิดตาต้อกระจกอาจไม่ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพโดยรวมของคุณ และไม่เป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของคุณในทันที แต่อย่างไรก็ตามในกรณีที่มีการปล่อยภาวะต้อกระจกเอาไว้นาน ๆ อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการมองเห็น และคุณภาพชีวิตของคุณ และหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการรักษามีความเสี่ยงสูงที่จะ “ตาบอด” 

ตาต้อกระจก รีบรักษาเพราะส่งผลต่อ “ดวงตา” โดยตรง 

ต้อกระจก คือ การที่เลนส์ธรรมชาติของดวงตาค่อย ๆ ขุ่นมัว ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียการมองเห็นทีละน้อย และเมื่อเวลาผ่านไป การมองเห็นของคุณก็อาจเบลอมากขึ้น ทำให้ยากต่อการทำงานในแต่ละวัน เช่น การอ่านหนังสือ การขับรถ หรือการจดจำใบหน้าของผู้อื่น และยังมาพร้อมกับความเสี่ยงอีกหลายประการ  

  • ความยากในการมองเห็นตอนกลางคืน: ตาต้อกระจกสามารถทำให้การมองเห็นในสภาพแสงน้อย หรือการมองเห็นในเวลากลางคืนเป็นเรื่องที่ยาก และแสงสะท้อนจากไฟหน้ารถ หรือไฟจากถนนอาจทำให้รู้สึกไม่สบายตา และทำให้การขับขี่รถในเวลากลางคืนเป็นอันตราย  
  • การรับรู้สี: การเกิดต้อกระจก อาจส่งผลต่อความสามารถในการรับรู้สี คุณอาจสังเกตเห็นว่าสีต่าง ๆ รอบตัวดูซีดจางหรือสดใสน้อยลง 
  • การมองเห็นภาพซ้อน: ต้อกระจกอาจทำให้เกิดการมองเห็นภาพซ้อน (เห็นภาพ 2 ภาพแทนที่จะเป็นภาพเดียว) ซึ่งอาจทำให้เกิดความสับสนและรบกวนการมองเห็นได้ 
  • ความเป็นอิสระลดลง: เมื่อการมองเห็นของคุณแย่ลง เนื่องจากอาการต้อกระจก คุณอาจต้องพึ่งพาผู้อื่นมากขึ้นในการทำกิจวัตรประจำวัน และคุณภาพชีวิตโดยรวมของคุณอาจลดลง  
  • ความเสี่ยงในการล้มเพิ่มขึ้น: สายตาที่พร่ามัวอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้มและการเกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ 
  • ตาต้อกระจก หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการผ่าตัด ก็อาจถึงขั้นตาบอดได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องร้ายแรง ดังนั้นจึงมีคำแนะนำอยู่เสมอ ๆ ว่าในกรณีที่คุณพบว่าตัวเองเป็นตาต้อกระจก หรือบุคคลในครอบครัวหรือคนรอบข้างเป็น คำแนะนำที่ดีที่สุดคือการไปพบคุณหมอ และวางแผนแนวทางในการผ่าตัดรักษา นำต้อกระจกออกไปให้เร็วที่สุด 

ถึงแม้ว่าตาต้อกระจกจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ส่งผลกระทบต่อการมองเห็น และการทำงานในแต่ละวันได้ ซึ่งการผ่าตัดต้อกระจกเป็นขั้นตอนที่มีประสิทธิผลและปลอดภัยสูง สามารถฟื้นฟูการมองเห็นได้อย่างชัดเจน และปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวมของคุณได้ เริ่มจากแนะนำให้ปรึกษาจักษุแพทย์หรือศัลยแพทย์ตา เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับทางเลือกในการรักษาของคุณ และพิจารณาว่าการผ่าตัดต้อกระจกนั้นเหมาะสมกับคุณหรือไม่